เต้าฮวยน้ำขิง & ปาท่องโก๋งาดำ คู่หูสุขภาพดีที่มีมากกว่าความอร่อย
หน้าแรกเมนูอร่อย ขิง ขิงเต้าฮวยน้ำขิง & ปาท่องโก๋งาดำ คู่หูสุขภาพดีที่มีมากกว่าความอร่อย

อาหารแต่ละชนิดในวัฒนธรรมเอเชียไม่เพียงแต่ถูกบริโภคเพื่อความอิ่มท้องหรือรสชาติที่ดีเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทเชิงสมดุลของธาตุร้อน–เย็นตามแนวคิดแพทย์แผนจีน รวมถึงการส่งเสริมสุขภาวะ (สภาวะที่เชื่อมโยงกันเป็นองค์รวมและส่งผลต่อคุณภาพชีวิต) ผ่านส่วนประกอบหรือวัตถุดิบทางโภชนาการ ซึ่งหนึ่งในคู่เมนูที่พบเห็นได้บ่อยและได้รับความนิยมสูงในกลุ่มอาหารเช้า ได้แก่ “เต้าฮวยน้ำขิง” และ “ปาท่องโก๋งาดำ” ซึ่งมีความสอดคล้องกันทั้งในด้านรสชาติ โภชนาการ และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมายาวนาน
“เต้าฮวยน้ำขิง” กับ “ปาท่องโก๋งาดำ” คือเมนูเพื่อสุขภาพที่หลายคนคุ้นเคยกันดีในมื้อเช้า หรือเป็นของว่างเบา ๆ ยามบ่าย ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมและเข้ากันอย่างลงตัว เต้าฮวยที่นุ่มนิ่มละลายในปาก เมื่อได้เจอกับน้ำขิงร้อน ๆ เผ็ดอ่อน ๆ และปาท่องโก๋งาดำกรอบนอกนุ่มใน กลายเป็น คู่หูสุขภาพดี ที่มีมากกว่าความอร่อย คนที่ยังไม่เคยได้ลอง ยิ่งต้องลอง เต้าฮวยน้ำขิง & ปาท่องโก๋งาดำ สองเมนูเพื่อสุขภาพที่ถูกยกให้เป็นคู่แท้ยามเช้า อร่อยละมุน พร้อมคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ
ประวัติความเป็นมาพอสังเขป ของการจับคู่ระหว่างเต้าฮวยน้ำขิงกับปาท่องโก๋สามารถสืบย้อนไปได้ถึงยุคราชวงศ์หมิงหรือราชวงศ์ชิง ซึ่งมีการนำเต้าฮวยน้ำขิงกับปาท่องโก๋มากินร่วมกันในแผงอาหารเช้าริมทางในจีน ปาท่องโก๋ช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสและความอิ่ม ขณะที่เต้าฮวยกับน้ำขิงให้รสชาติที่ละมุนนุ่มนวลถือเป็นภูมิปัญญาของชาวจีนที่นำของหวานและสมุนไพรมาผสมผสานกันเพื่อเพิ่มรสชาติและคุณประโยชน์เพื่อสุขภาพ
เต้าฮวยน้ำขิง อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยคุณค่า มีต้นกำเนิดจากจีน โดยเฉพาะในพื้นที่ตอนใต้และตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ส่วนใหญ่บริโภคเป็นของหวานหรืออาหารเช้า โดยราดด้วยน้ำขิงหรือไซรัปหวาน อีกทั้งในจีนตอนเหนือ พ่อค้าอาหารเช้า ขายเต้าฮวยแบบร้อน (sweet or savory) คู่กับปาท่องโก๋เป็นชุดอาหารเช้าธรรมดาที่ทั้งอิ่มและเพลิน
ปาท่องโก๋ กรอบอร่อย เพิ่มพลังพร้อมสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นของทอดรูปแท่งยาว ทำจากแป้งหมักเล็กน้อย นิยมรับประทานคู่กับนมถั่วเหลืองหรือเต้าหู้ในหลายวัฒนธรรม เมื่อโรยงาดำลงบนปาท่องโก๋ เพิ่มกลิ่นหอมและสารอาหารดี ๆ เข้าไปในของว่างชิ้นเล็ก ๆ
คุณค่าทางโภชนาการที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
สะดวก ครบ จบในมื้อเช้าเดียว
คนทำอาหารขายง่าย เหมาะกับช่วงเช้าที่อยากกินของร้อน ๆ กรอบ ๆ
- เต้าฮวยให้โปรตีนจากถั่วเหลือง น้ำขิงมีคุณสมบัติต้านอักเสบ ปาท่องโก๋งาดำช่วยเพิ่มไขมันดีและแร่ธาตุ จึงกลายเป็น “คู่สุขภาพเช้า” ที่ลงตัวทั้งรสและคุณค่า
- โปรตีนจากพืช เต้าฮวยมีแหล่งโปรตีนคุณภาพดีจากถั่วเหลือง เหมาะสำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์
- น้ำขิง มีสารจินเจอรอล (gingerol) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ กระตุ้นการย่อยอาหาร และช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต
- แคลเซียม และไอโซฟลาโวน ถั่วเหลืองเป็นแหล่งของไอโซฟลาโวน ซึ่งเป็นไฟโตเอสโตรเจนที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย
- คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ให้พลังงานแก่ร่างกายในช่วงเช้า
- งาดำ อุดมด้วยแคลเซียม วิตามินอี และสารเซซามิน ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และบำรุงกระดูก
- ไขมันไม่อิ่มตัว จากงาดำ มีผลดีต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ
การส่งเสริมกันระหว่างสองเมนู
การบริโภคเต้าฮวยน้ำขิงร่วมกับปาท่องโก๋งาดำก่อให้เกิดความสมดุลในเชิงรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ
- สมดุลพลังงาน เต้าฮวยเป็นอาหารเบา ในขณะที่ปาท่องโก๋ให้พลังงานที่เพียงพอสำหรับการเริ่มต้นของวัน
- สมดุลร้อน–เย็น น้ำขิงมีฤทธิ์ร้อน ช่วยขับลม ขณะที่เต้าหู้มีฤทธิ์เย็นและงาดำช่วยเสริมธาตุดิน
- ส่งเสริมการดูดซึม น้ำขิงช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร จึงทำให้การดูดซึมสารอาหารจากอาหารร่วมมื้อ เช่น โปรตีนและไขมันดี เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เต้าฮวยน้ำขิง
ส่วนผสมเต้าฮวย
- น้ำเต้าหู้เข้มข้น 500 มล.
- แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา
- ผงเจี๊ยะกอ* ½ ช้อนชา
- น้ำเปล่า (ใช้ละลายผงเจี๊ยะกอ) 1½ ช้อนโต๊ะ
- ฮอทต้า ขิงเข้มข้น 4 ซอง
- น้ำเปล่า 500 มล.
- นำน้ำเต้าหู้ขึ้นตั้งไฟ รอให้เดือด ต้องคอยคนเบา ๆ และบ่อยๆ ป้องกันก้นหม้อไหม้
- เตรียมภาชนะสำหรับใส่แป้งข้าวโพด ผงเจี๊ยะกอ และน้ำ คนละลายให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- เมื่อน้ำเต้าหู้เดือดให้รีบเทลงไปในส่วนผสมที่ละลายไว้ โดยยกเทให้สูงนิดนึง เพื่อที่เวลาน้ำเต้าหู้ลงไป แรงกระทบจะทำให้แป้งข้าวโพดและเจี๊ยะกอ กระจายตัวทั่วน้ำเต้าหู้ จากนั้นปิดฝาภาชนะให้มิดชิด และควรมีผ้าขาวบางรองไว้ที่ฝาของภาชนะ เพื่อช่วยดูดซับไอน้ำ
- ทิ้งไว้ 15 นาที เต้าฮวยจะเซ็ตตัว จากนั้นค่อย ๆ ตักส่วนที่เป็นฟองบนผิวหน้าทิ้งไป ก่อนที่จะตักเต้าฮวยใส่ถ้วย ตามด้วยน้ำขิง ที่ทำได้แบบง่าย ๆ
- ฉีกซอง ฮอทต้า ขิงเข้มข้น ใส่ภาชนะ เติมน้ำร้อน คนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปตักใส่เต้าฮวย เต้าฮวยน้ำขิง อร่อยขิง ๆ เนียนนุ่มละมุนลิ้น ฟินต่อสุขภาพ กินคู่กับปาท่องโก๋งาดำ เพิ่มความกรุบกรอบให้ทุกคำ อุ่นท้อง อบอุ่นใจ อร่อยสุขภาพดีได้ทุกเวลา
ข้อมูลเพิ่มเติม
*ผงเจี๊ยะกอ บ้างก็เรียกเอี๊ยะกอ คือ แคลเซียมซัลเฟต (Calcium Sulfate) หรือบางคนรู้จักในชื่อ หินฝุ่น, ผงยิปซัม, หินอ่อนสะตุ หรือ หินเต้าหู้ เป็นส่วนผสมหลักในการทำเต้าหู้อ่อนและเต้าฮวย สำหรับใช้ทำให้โปรตีนในน้ำนมถั่วเหลืองตกตะกอน และทำให้เนื้อเต้าหู้หรือเต้าฮวยมีความเนียนและนุ่ม ไม่แข็งเท่าเต้าหู้ขาว
ฮอทต้า ขิงเข้มข้น มีรสชาติเผ็ดนิด หวานน้อย อร่อยลงตัว เพื่อความสะดวกในการทำน้ำขิงที่ต้องใช้หัวขิงมาต้มกับน้ำตาล เลือก ฮอทต้า ขิงเข้มข้น ชงสะดวก ผลิตจากขิงแท้ที่คัดแต่แก่สดอายุ 11-12 เดือน เท่านั้น

ปาท่องโก๋งาดำ
ส่วนผสม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 300 กรัม
- น้ำ 180 กรัม
- น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำมันรำข้าว* 1 ช้อนโต๊ะ
- งาดำ 3 ช้อนโต๊ะ
- ครีมเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
- ยีสต์ 2 ช้อนชา
- น้ำมันรำข้าว* (สำหรับทอด)
- ถ้วยหรือเหยือกใส่น้ำ จากนั้นใส่น้ำตาลและเกลือ คนให้ละลาย แล้วใส่น้ำมันรำข้าว คนเบา ๆ อีกครั้ง วางพักไว้
- เตรียมภาชนะสำหรับใส่แป้ง ครีมเทียม งาดำ ยีสต์ คนให้เข้ากัน
- ค่อย ๆ เทส่วนผสมของน้ำในข้อที่1 ลงไปในข้อที่2 เบา ๆ แล้วค่อย ๆ คนไปเรื่อย ๆ ให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ถ้าแห้งไป ให้เติมน้ำเข้าไปอีกเล็กน้อย สูตรนี้ไม่ต้องนวดแป้ง แต่ใช้การคนแป้งให้เข้ากันเท่านั้น เพียงคนไปเรื่อย ๆ แป้งก็จะเหนียวนุ่ม จากนั้นพักแป้งไว้ 1 ชั่วโมง
- ตั้งกระทะเตรียมไฟใส่น้ำมันเพื่อทอดปาท่องโก๋งาดำ จากนั้นนำแป้งที่พักไว้มาตัดแบ่งจากก้อนใหญ่ให้เป็นส่วน ๆ แล้วคลึงให้เป็นชิ้นยาวเนียนสวย กะความหนาความบางตามชอบ แล้วตัดแบ่งเป็นชิ้นเท่า ๆ กัน จะทอดเดี่ยวเป็นตัว หรือใช้ไม้แหลมจุ่มน้ำมาแตะบริเวณกลางแผ่นแป้งที่ตัดไว้ เพื่อให้เป็นตัวเชื่อมกับแผ่นแป้งอีกชิ้น สำหรับทอดเป็นคู่
- นำแป้งลงทอดในกระทะร้อน ไฟปานกลาง หมั่นพลิกตัวปาท่องโก๋งาดำบ่อย ๆ เพื่อให้สีเสมอกัน เมื่อสุกแล้วตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน เป็นอันเสร็จแล้วพร้อมกิน
ข้อมูลเพิ่มเติม
*น้ำมันรำข้าว สามารถใช้แทนน้ำมันพืช ในการผสมกับแป้งเพื่อทำปาท่องโก๋งาดำและใช้ทอดปาท่องโก๋งาดำได้
เนื่องจากน้ำมันรำข้าวเป็นน้ำมันพืชชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี ไม่มีกลิ่น หรือมีรสชาติที่เป็นกลาง จึงไม่ทำให้รสชาติของปาท่องโก๋งาดำเปลี่ยนไป อีกทั้งน้ำมันรำข้าวยังมีคุณสมบัติที่ช่วยชูรสชาติของอาหารและดีต่อสุขภาพอีกด้วย ทำให้เหมาะสำหรับการนำไปเป็นส่วนผสมในอาหารและปาท่องโก๋งาดำ
น้ำมันรำข้าวยังมีจุดเกิดควันที่สูง ทำให้สามารถทนความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับการทอดที่ต้องใช้น้ำมันในปริมาณมาก หรือใช้ความร้อนสูง เช่น การทอดปาท่องโก๋งาดำ และน้ำมันรำข้าวเมื่อนำมาทอดปาท่องโก๋งาดำ จะทำให้ปาท่องโก๋งาดำไม่อมน้ำมันมากเกินไปอีกด้วย

เลือกน้ำมันรำข้าว (Rice Bran oil) ให้เป็น เน้นคุณประโยชน์ให้กับสุขภาพ
- เลือกผู้ผลิตน้ำมันรำข้าวที่มีแหล่งผลิต หรือ นำเข้าชัดเจน รวมไปถึงการมีเครืองหมาย อย. เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องของความสะอาดในทุกขั้นตอนการผลิต
- ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์น้ำมันรำข้าวที่มีฝาปิดสนิท ไม่บุบ บวม บูบี้ ไม่รั่ว รวมไปถึงมีน้ำมันรำข้าวที่ใส ไม่ขุ่น หรือไม่เป็นไข เนื่องจากปกติแล้ว น้ำมันรำข้าวมักมีสถานะที่เป็นของเหลวในอุณหภูมิห้อง จะไม่เป็นไข ไม่มีสิ่งปลอมปนหรือปนเปื้อน
- ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อน้ำมันรำข้าว ทุกครั้งต้องประเมินดูว่ามรการใช้น้ำมันรำข้าวขวดนั้นนานเพียงใด เพื่อการใช้น้ำมันขวดนั้นได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
- เลือกที่มีปริมาณโอรีซานอลสูง ๆ ซึ่งสารโอรีซานอลนั้นมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) รวมถึงปรับสมดุลฮอร์โมนในสตรีวัยทอง และการเลือกน้ำมันรำข้าวที่มีสารโอรีซานอลสูง ก็ไม่จำเป็นต้องกินน้ำมันรำข้าวในปริมาณที่สูงเกินไปด้วย โดยผู้ประกอบการน้ำมันรำข้าวแต่ละยี่ห้อ มีการระบุปริมาณของสาร (หน่วยเป็น PPM) โอรีซานอลไว้ที่ฉลากโภชนาการ
ปาท่องโก๋งาดำร้อน ๆ กินคู่กับเต้าฮวยน้ำขิงหอมกรุ่น รสชาติกลมกล่อมที่เข้ากันอย่างลงตัว ทั้งความกรอบนอกนุ่มในของปาท่องโก๋งาดำ และความนุ่มละมุนของเต้าฮวยที่แช่อยู่น้ำขิงอุ่น ๆ หอมซ่าเบา ๆ กำลังดี ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังดีต่อสุขภาพ เติมเต็มทั้งร่างกายและหัวใจในทุกคำที่ลิ้มลอง...อย่ารอช้า มาสัมผัสความอบอุ่นนี้ด้วยสูตรการทำเมนูเพื่อสุขภาพแบบง่าย ๆ ตัวคุณเองได้เลย!
บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจ