เหตุผลที่ต้องดื่มน้ำขิงสำหรับคุณแม่หลังคลอด

หน้าแรกประโยชน์ของขิงเหตุผลที่ต้องดื่มน้ำขิงสำหรับคุณแม่หลังคลอด


เหตุผลที่ต้องดื่มน้ำขิงสำหรับคุณแม่หลังคลอด เนื่องจากตำราแพทย์แผนไทยได้ระบุถึงสรรพคุณของขิงเอาไว้ว่า สารสำคัญในขิงมีส่วนช่วยขับน้ำนมสำหรับคุณแม่หลังคลอด ช่วยให้คุณแม่หลังคลอดที่มีน้ำนมน้อย หรือน้ำนมไม่มา ให้มีน้ำนมมากขึ้นได้

เพราะน้ำนมคือสายสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่ของ “แม่” ที่ส่งผ่านความรักสู่ “ลูก” ที่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของอ้อมกอดและความห่วงใย แต่คุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่มักประสบปัญหาการมีน้ำนมแม่ที่ไม่เพียงพอสำหรับให้ลูกน้อย และหลักการสำคัญในการเสริมสร้างน้ำนมแม่ให้เพียงพอนั้น คือการทำให้ร่างกายอบอุ่นก่อนการให้น้ำนมลูกทุกครั้ง ซึ่งการบริโภคอาหารที่มีฤทธิ์อุ่นอย่างการดื่มน้ำขิง คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีส่วนช่วยคุณแม่หลังคลอดกระตุ้นน้ำนม ส่งเสริมการผลิตน้ำนมในคุณแม่หลังคลอดได้เป็นอย่างดี [4]

ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย แต่มีคุณแม่หลังคลอดในหลายประเทศทั่วโลก ที่นิยมบริโภคอาหารที่มีขิงเป็นส่วนประกอบหรือดื่มน้ำขิงทันทีที่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงให้กำเนิดลูกน้อย นั่นเป็นเพราะคุณประโยชน์ของขิงหรือน้ำขิงดีต่อสุขภาพองค์รวม มีส่วนช่วยดูแลบำรุงร่างกายในหญิงตั้งครรภ์ไปจนถึงระยะคุณแม่หลังคลอด ให้สามารถฟื้นตัวได้ดีหลังการคลอดบุตร เสมือนอาหารบำรุงน้ำนม บรรเทาอาการวิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียนจากการแพ้ท้อง ช่วยกระตุ้นน้ำนม บำรุงน้ำนม เสริมการทำงานของท่อน้ำนม ต่อมน้ำนม ฯลฯ

ในตำรับยาไทยแผนโบราณยังต้องให้มีการบริโภคอาหารที่มีขิงเป็นส่วนประกอบหรือดื่มน้ำขิงระหว่างให้น้ำนมลูก และในทางการแพทย์ตะวันตกยังมีการศึกษาที่พบว่า ขิง ทำหน้าที่เป็น กาแลคตาโกกส์ (Galactagogues) ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงน้ำนม กระตุ้นน้ำนม (กาแลคตาโกกส์ เป็นคำที่มักใช้เรียกสมุนไพร อาหาร ยาหรือแนวทางปฏิบัติเพื่อการเพิ่มปริมาณน้ำนมในคุณแม่หลังคลอดในปริมาณที่ต่ำ) [1] [2]
 

คุณแม่หลังคลอดควรบริโภคขิงในรูปแบบใด
คลินิกแพทย์แผนไทยประยุกต์ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แนะนำอาหารสำหรับว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ อาหารบำรุงน้ำนม อาหารที่มีคุณค่าตามการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามอายุครรภ์ [3] เอาไว้ว่า...

ตั้งครรภ์เดือนที่ 1 จะแสดงอาการให้รู้ว่าตั้งครรภ์แล้ว จะมีเอ็นเขียวผ่านหน้าอก หัวนมนั้นคล้ำดำขึ้นและมีเม็ดรอบหัวนม อาจมีอาการแพ้ท้อง เต้านมจะใหญ่ขึ้น มีอาการคัดและเจ็บเต้านม อารมณ์จะเปลี่ยน หงุดหงิดง่าย 
แนะนำอาหารดูแลสุขภาพองค์รวมของคุณแม่ช่วงตั้งครรภ์ ควรกิน ต้มจืดเต้าหู้หมูสับใส่ตำลึง รากบัวเชื่อม น้ำขิง

ตั้งครรภ์เดือนที่ 2 คัดเจ็บตึงเต้านม เต้านมขยายขึ้นมาก สังเกตเห็นบริเวณฐานหัวนมจะกว้างและนุ่มขึ้น มีตกขาวมากขึ้นกว่าปกติ มีอาการคลื่นไส้อาเจียน อารมณ์แปรปรวน อ่อนไหวและซึมเศร้า เหนื่อยล้า 
แนะนำอาหารดูแลสุขภาพองค์รวมของคุณแม่ช่วงตั้งครรภ์ ควรกิน ยำผักแว่น ไก่ผัดขิง

ตั้งครรภ์เดือนที่ 3 ยังมีอาการแพ้ท้อง อารมณ์เริ่มนิ่ง อาจพบการบวมของฝ่ามือฝ่าเท้า เส้นเลือดโป่งได้ และอาจตรวจพบเสียงหัวใจของเด็ก 
แนะนำอาหารดูแลสุขภาพองค์รวมของคุณแม่ช่วงตั้งครรภ์ ควรกิน ชาชงเกสรบัวหลวง ชาชงขิง

ตั้งครรภ์เดือนที่ 4 อาการแพ้ท้องเริ่มหายไป อารมณ์เริ่มปกติ อาจมีใจลอยบ้าง อาจมีตกขาวมากขึ้น อาจมีเส้นเลือดขอดและอาจเกิดริดสีดวงทวารขึ้นได้ 
แนะนำอาหารดูแลสุขภาพองค์รวมของคุณแม่ช่วงตั้งครรภ์ ควรกิน ปลากะพงนึ่งซีอิ๊วใส่ขิง ชาชงมะตูม น้ำย่านาง น้ำฟักข้าว

ตั้งครรภ์เดือนที่ 5 ผิวหนังมีการเปลี่ยนแปลง อารมณ์เป็นปกติ ทารกในครรภ์เริ่มขยับตัว 
แนะนำอาหารดูแลสุขภาพองค์รวมของคุณแม่ช่วงตั้งครรภ์ ควรกิน ปลาทอดขมิ้น แกงเหลือง น้ำใบบัวบก

ตั้งครรภ์เดือนที่ 6 มีการเปลี่ยนแปลงของผนังหน้าท้องหรือที่เรียกว่าหน้าท้องลาย อาจมีอาการคัน อาจเกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ อาการครรภ์เป็นพิษ อาจมีการอักเสบของการติดเชื้อราและติดเชื้อทางระบบปัสสาวะ
แนะนำอาหารดูแลสุขภาพองค์รวมของคุณแม่ช่วงตั้งครรภ์ ควรกิน ต้มไข่พะโล้ ปีกไก่อบเชย น้ำย่านาง

ตั้งครรภ์เดือนที่ 7 ทารกเริ่มโต คุณแม่อาจมีอาการหายใจสั้นเนื่องจากมดลูกโตมาดันกระบังลม เคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่ว นอนหลับไม่เต็มที่
แนะนำอาหารดูแลสุขภาพองค์รวมของคุณแม่ช่วงตั้งครรภ์ ควรกิน โจ๊กปลาใส่ขิง น้ำย่านาง เต้าฮวยน้ำขิง

ตั้งครรภ์เดือนที่ 8 เริ่มรู้สึกเหนื่อยง่าย หายใจสั้นและเร็ว กระเพาะปัสสาวะถูกกด มักชอบเรอและท้องอืดท้องเฟ้อ
แนะนำอาหารดูแลสุขภาพองค์รวมของคุณแม่ช่วงตั้งครรภ์ ควรกิน แกงเหลือง ชามะตูม สะเดาน้ำปลาหวาน

ตั้งครรภ์เดือนที่ 9 อาจจะมีอาการปวดหัวเหน่า โคนขา ปัสสาวะบ่อย รู้สึกหน่วงช่วงเชิงกรานมากขึ้น
แนะนำอาหารดูแลสุขภาพองค์รวมของคุณแม่ช่วงตั้งครรภ์ ควรกิน ขิงสด แกงขี้เหล็ก

เป็นเพียงตัวอย่างเมนูอาหารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มักจะต้องมีขิงเป็นส่วนประกอบเสมอและสามารถบริโภคขิงได้ทั้งในรูปแบบขิงสดและขิงผง

ขิงสด
คือการใช้ส่วนราก หรือเหง้า หรือแง่งขิง หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า หัวขิง มาเป็นวัตถุดิบในเมนูอาหาร โดยอาจใช้หัวขิงสดขูดโรยบนอาหาร เช่น โจ๊กใส่ขิง หรือนำขิงสดมาผัดเป็นอาหารจานร้อนอย่างเมนูไก่ผัดขิง หรือจะเป็นเมนูปลานึ่งซีอิ๊ว ปลานึ่งบ๊วย กุ้งอบวุ้นเส้น ที่ต้องใส่ขิง หรือแม้แต่นำขิงสดมาต้มชงเป็นน้ำขิง ชาขิง ก็อร่อยและเฮลท์ตี้ในแบบขิงขิง
 

ขิงผง หรือผลิตภัณฑ์ขิงผงสำเร็จรูป
ขิงผง คือ ขิงแห้งที่มาจากการซื้อขิงแห้งทั้งเหง้าหรือแง่ง หรือทั้งหัวขิงมาจากร้านขายยาแผนโบราณหรือร้านขายยาสมุนไพรที่มีจรรยาบรรณ เพื่อที่เราจะได้นำกลับไปบดเป็นขิงผงด้วยตัวเราเองที่บ้าน ส่วนการบดก็เพียงใช้เครื่องปั่นเมล็ดกาแฟหรือเครื่องบดอาหารแห้งก็ได้ แต่ปัจจุบันนี้การซื้อขิงแห้งมาบดเองดูจะเริ่มไม่ค่อยได้รับความนิยม อาจด้วยไม่ค่อยมีเวลา และผลิตภัณฑ์ขิงผงสำเร็จรูปคือทางเลือกยอดนิยมที่สามารถหาซื้อได้จากร้านจำหน่ายอาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่น่าเชื่อถือได้ในท้องถิ่น  อีกทั้งการซื้อผลิตภัณฑ์ขิงผงสำเร็จรูปนี้ ยังต้องมีความละเอียดรอบคอบก่อนการตัดสินใจซื้อ เช่น อย่าลืมตรวจสอบชื่อเสียงหรือการการันตีของบริษัทผู้ผลิต ตรวจสอบรายละเอียดส่วนผสมที่มีบนฉลาก การจดทะเบียนหรือขออนุญาตถูกต้องจาก อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) 

เพราะผลิตภัณฑ์ขิงผงสำเร็จรูปที่มีคุณภาพนั้น ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ขิงผงสำเร็จรูปจากบริษัทผู้ผลิตที่มีมาตรฐานการผลิตระดับสากล มีการคัดสรรวัตถุดิบตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกขิง การค้นคว้าวิจัยที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งการพัฒนาสูตร รสชาติ ให้อร่อยแต่ไม่ทำร้ายสุขภาพ และเป็นผลิตภัณฑ์ขิงผงสำเร็จรูปที่ยังคงรักษาคุณค่าของจินเจอร์รอล (สารสำคัญในขิง) เสมือนว่าเรากำลังบริโภคขิงสดที่มีสารจินเจอร์รอลนั่นเอง (ในผลิตภัณฑ์ขิงผงสำเร็จรูปคุณภาพดีบางยี่ห้อ จะมีการส่งผลิตภัณฑ์ไปตรวจหาค่าสารจินเจอร์รอล และสามารถการันตีได้ว่าในผลิตภัณฑ์ขิงผงสำเร็จรูปนั้นมีสารจินเจอร์รอลจริง)
 

น้ำขิง เพิ่มความอบอุ่นของแม่ ส่งต่อความรักสู่ลูกน้อย
น้ำขิง เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่มีฤทธิ์อุ่น สามารถดื่มได้อย่างสม่ำเสมอในช่วงระหว่างให้นมลูก เพราะขิงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านรส-กลิ่นที่เผ็ดร้อน และอุดมไปด้วยชันน้ำมัน (Oleoresin), น้ำมันหอมระเหย (Volatile Oil), วิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ และสารสำคัญอย่างจินเจอร์รอล (Gingerol) ที่มีส่วนช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น พร้อมกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต กระตุ้นน้ำนมของคุณแม่หลังคลอด แต่เพื่อให้ได้ผลเต็มที่ ควรดื่มน้ำขิงก่อนให้นมลูกน้อย ประมาณ 30 นาที จะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้น้ำนมไหลดีขึ้น บำรุงน้ำนม ช่วยนำพาสารอาหารบำรุงน้ำนมต่าง ๆ ที่คุณแม่รับประทานเข้าไปไหลผ่านทางน้ำนมไปสู่ลูก

คุณค่าจากขิงที่มากับน้ำนมยังมีส่วนช่วยทำให้ลูกไม่ปวดท้อง ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้และอาการปวดท้องกร็งในลูกน้อยได้

การบริโภคขิงมีผลต่อรสชาติน้ำนมแม่หลังคลอดหรือไม่ ?
เมื่อคุณแม่หลังคลอดรับประทานอาหาร รสชาติของอาหารที่คุณแม่หลังคลอดรับประทานจะถูกส่งผ่านไปยังน้ำนม และส่งผลให้น้ำนมแม่หลังคลอดมีรสชาติเปลี่ยนแปลงไปได้ มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อคุณแม่หลังคลอดรับประทานอาหารที่มีรสชาติเข้มข้น เช่น อาหารที่มีส่วนประกอบเป็นขิง กระเทียม หรือเครื่องเทศชนิดอื่น ๆ รสชาติของอาหารเหล่านั้นอาจจะส่งผลต่อรสชาติของน้ำนมภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการรับประทาน และลูกของคุณแม่หลังคลอดอาจยอมรับรสชาติหรืออาหารเหล่านั้นมากขึ้นหลังจากได้รับรสชาติต่าง ๆ ผ่านน้ำนมแม่

สำหรับรสชาติของน้ำนมแม่หลังคลอดที่เปลี่ยนไป ลูกน้อยบางคนอาจไม่ปฏิเสธน้ำนมแม่ แต่ลูกน้อยบางคนนั้นมีความไวต่อรสชาติน้ำนมแม่จนอาจปฏิเสธการกินนมจากแม่ได้ และหากคุณแม่หลังคลอดพบว่าลูกน้อยมีท่าทีว่าจะยังคงปฏิเสธน้ำนมอยู่ คุณแม่สามารถหยุดรับประทานขิง หรือปรับเปลี่ยนอาหารและสังเกตดูว่าอาการดังกล่าวของลูกน้อยดีขึ้นหรือไม่ แต่ถ้ายังคงไม่ดีขึ้น คุณแม่อาจลองหันไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการให้นมแม่หรือกุมารแพทย์ได้

ขิงและความปลอดภัยต่อคุณแม่หลังคลอด
ขิง จัดเป็นสมุนไพรธรรมชาติที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายและมีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงใด ๆ เมื่อถูกส่งผ่านคุณค่าของขิงมาสู่ลูกน้อยทางน้ำนมแม่ แต่คุณแม่หลังคลอดสามารถปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มการปรับเปลี่ยนอาหารหรือบริโภคขิงเพื่อความมั่นใจได้เช่นกัน เพราะว่าขิงเป็นพืชสมุนไพรที่จัดเป็นได้ทั้งยาและอาหาร รวมไปถึงเครื่องเทศหรือสมุนไพรอื่น ๆ มักมีสรรพคุณในการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปริมาณที่รับประทาน หากชื่นชอบในการดื่มน้ำขิงแล้วเกิดความไม่สบายใจควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมได้นั่นเอง

ขิงและการฟื้นฟูสุขภาพร่างกายคุณแม่หลังคลอด
หลังการคลอดลูกน้อยใหม่ ๆ คุณแม่ทุกคนต้องรู้สึกดีใจ โล่งใจ ที่การคลอดผ่านไปได้ด้วยดี แต่ก็ต้องมีความวิตกกังวลใจต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายจากการตั้งครรภ์ตามมา ทั้งทางด้านจิตใจ ร่างกาย การฟื้นตัวของมดลูก น้ำคาวปลาผิดปกติ หรืออาจมีอาการปวดศีรษะรุนแรง ปวดท้องน้อย เจ็บปวด หรือแสบขัดเวลาปัสสาวะ ซึ่งคุณค่าจากน้ำขิง ดีต่อการฟื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอด

คนไทยนิยมให้คุณแม่หลังคลอดอยู่ไฟเพื่อขับน้ำคาวปลา ขับผิว ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการใช้ความร้อนเข้ามาสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายและจิตใจ โดยหนึ่งในสมุนไพรธรรมชาติที่นิยมนำมาใช้กันในการอยู่ไฟเพื่อให้คุณแม่หลังคลอดได้รับประทานเพื่อกระตุ้นน้ำนมและบำรุงสุขภาพก็คือ ขิง

ปัจจุบันการอยู่ไฟเริ่มไม่ค่อยนิยมและค่อยๆ เลือนหายไป แต่สิ่งที่ยังคงอยู่และเป็นที่นิยมของคุณแม่หลังคลอดต่อไปก็คือการบริโภคขิง ที่ไม่ว่าจะเป็นขิงในรูปแบบ น้ำขิง อาหารที่มีส่วนผสมของขิง ผลิตภัณฑ์ขิงผงสำเร็จรูป ล้วนมีความสำคัญในการฟื้นฟูและบำรุงสุขภาพร่างกายคุณแม่หลังคลอดตลอดมา 

เช่น นิยมให้คุณแม่หลังคลอดกินไก่ผัดขิง โดยเฉพาะไก่ดำตัวผู้จะยิ่งมีหยางมากกว่าไก่ตัวเมีย ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดจะเสียทั้งพลังหยางและเลือด มีน้ำในร่างกายตกค้างอยู่มาก การกินไก่ผัดขิงจะเสริมทั้งเลือดพลังหยาง ช่วยทำให้การย่อยดูดซึมอาหารดีขึ้น มีการขับระบายของเสียน้ำตกค้าง น้ำคาวปลาได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายกลับสู่ภาวะปกติเร็วขึ้น รวมไปถึงช่วยลดน้ำหนักในคุณแม่หลังคลอด บรรเทาอาการอักเสบของแผลผ่าตัด จึงไม่แปลกที่คุณแม่หลังคลอดแทบจะทุกบ้านเลือกบริโภคขิงแล้วอะไร ๆ ก็ดีไปหมดนั่นเอง [5]

ที่มา:
[1] เคล็ดลับการเพิ่มน้ำนมแม่ โดย สำนักโภชนาการ กรมอนามัย 17 พฤษภาคม 2557 ณ สำนักงานสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
[2] พืชผักบำรุงน้ำนม ภญ. นิธิมา สุทธิพันธุ์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
[3] อาหารสำหรับมารดาตั้งครรภ์ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย จัดทำโดย คลินิกแพทย์แผนไทยประยุกต์ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
[4] กรุงเทพธุรกิจ / ข่าวทั่วไป / คุณภาพชีวิต-สังคม / ตำรับเพิ่ม ‘น้ำแม่‘
[5] นิตยสารหมอชาวบ้าน / ขิง ยาอายุวัฒนะที่ไม่ควรมองข้าม
กลับ
03/03/2566
12,226
บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจ