เมนูซุปขิงปลากะพง
หน้าแรกเมนูอร่อย ขิง ขิงเมนูซุปขิงปลากะพง

ช่วงนี้ไม่ว่าเปิดโซเชียลไปทางไหน ก็เห็นคนแชร์เมนูอุ่น ๆ เพื่อดูแลสุขภาพกันเต็มฟีด โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน หรือวันที่อากาศแปรปรวน เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตก บางวันมีหลายฤดู ในวันเดียว จนป่วยกันไปหมด และเมนูหนึ่งที่ขึ้นแท่นขวัญใจของใครหลายคนแบบเงียบ ๆ แต่อร่อยและเหมาะกับเมนูสุขภาพมาก ก็คือ “ซุปขิงปลากะพง” ฟังดูอาจเหมือนเมนูเรียบง่าย แต่ความจริงแล้วมันมีดีมากกว่าที่คิด เพราะซุปขิงปลากะพง เป็นเมนูที่รวมเอาคุณค่าจากธรรมชาติไว้อย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องรสชาติ และประโยชน์ต่อร่างกาย ที่สำคัญคือช่วยบรรเทาอาการไม่สบายเบื้องต้นได้ดีมาก ทานอุ่น ๆ คล่องคอ เหมาะกับมื้อเช้า หรือเวลารู้สึกไม่สบายใจนิด ๆ “ซุปขิงปลากะพง” คงเป็นหนึ่งในเมนูที่หลายคนนึกถึงเลยแหละ เพราะขิงร้อน ๆ ที่ใส่ในซุปมีสรรพคุณช่วยขับลม แก้ท้องอืด บรรเทาอาการหวัด แล้วยังช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ส่วนปลากะพงเนื้อแน่น ๆ ย่อยง่าย โปรตีนสูง ไขมันต่ำ และยังมีโอเมก้า 3 กินแล้วไม่หนักท้อง เหมาะกับคนที่อยากดูแลตัวเองแบบไม่รู้สึกฝืน เมนูนี้เลยตอบโจทย์ทั้งเรื่องรสชาติและสุขภาพ ยิ่งถ้าปรุงแบบใส่น้ำซุปกลมกล่อมหน่อย โรยพริกไทยเพิ่มนิด แค่คิดก็น้ำลายสอแล้ว ใครยังไม่เคยลอง ต้องจัดสักชามแล้วจะรู้ว่า "อร่อยแบบเฮลท์ตี้" มันเป็นยังไง
ก่อนที่จะไปเริ่มทำเมนูซุปขิงปลากะพง เรามาทำความรู้จักกับประโยชน์ทางสุขภาพของเมนูซุปขิงปลากะพง และของวัตถุดิบสำคัญในเมนู ซุปขิงปลากระพง อย่างขิง ปลากะพง และพริกไทย กันก่อนดีกว่า
ประโยชน์ทางสุขภาพของซุปขิงปลากะพง
เมนูซุปขิงปลากะพงเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพนอกจากความอร่อยและสุขภาพแล้ว เมนูนี้ยังเหมาะกับทุกวัย จะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุก็กินได้แบบไม่ต้องกังวล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกัน ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายจากอาการอ่อนเพลีย หรือมีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารอีกด้วย เรียกได้ว่า “ซุปขิงปลากะพง” ไม่ใช่แค่เมนูธรรมดา แต่เป็นอาหารที่ให้ความอบอุ่นทั้งร่างกายและหัวใจ โดยเฉพาะในวันที่อากาศไม่แน่นอน ร่างกายอ่อนแอ หรือแม้แต่ในวันที่เรารู้สึกว่าอยากเติมพลังให้ตัวเองแบบเบา ๆ ก็หยิบเมนูนี้ขึ้นมาได้เลย โดยแต่ละส่วนผสมในซุปนี้ให้ประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้

ขิง – สมุนไพรช่วยต้านอักเสบ และบำรุงระบบย่อยอาหาร
ขิง เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในอาหารและยาแผนโบราณ โดยเฉพาะในตำรับแพทย์แผนจีนและอายุรเวทของอินเดีย ขิงมี สารจินเจอรอล (Gingerol) ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ และมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูง
- มีสาร จินเจอร์รอล (Gingerol) ช่วยลดการอักเสบและปวดข้อ
- กระตุ้นระบบเผาผลาญ ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และคลื่นไส้
- ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
ประโยชน์ของขิงต่อสุขภาพ:
ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร – ขิงช่วยเพิ่มการหลั่งน้ำย่อย ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
- ลดอาการคลื่นไส้ – มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการคลื่นไส้จากการเมารถ เมาเรือ หรืออาการแพ้ท้องของหญิงตั้งครรภ์
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด – มีการศึกษาพบว่าขิงช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
- ช่วยลดการอักเสบและอาการปวดข้อ – ขิงมีฤทธิ์คล้ายยาต้านการอักเสบตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดอาการปวดของโรคข้อเข่าเสื่อมและข้ออักเสบ
- ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน – ขิงมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ซึ่งช่วยลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ

ปลากะพง – โปรตีนคุณภาพสูงและโอเมก้า-3 เพื่อสมองและหัวใจ
ปลากะพงเป็นแหล่งของโปรตีนที่ย่อยง่ายและเต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะ โอเมก้า-3 ที่มีประโยชน์ต่อสมอง หัวใจ และระบบไหลเวียนโลหิต
- มี โอเมก้า-3 ที่ช่วยบำรุงสมอง ลดการอักเสบ และดีต่อหัวใจ
- มีวิตามิน D และแร่ธาตุสำคัญ เช่น ฟอสฟอรัสและซีลีเนียม ช่วยบำรุงกระดูก
ประโยชน์ของปลากะพงต่อสุขภาพ:
- ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท – กรดไขมันโอเมก้า-3 ในน้ำมันปลาช่วยพัฒนาสมอง ความจำ และช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์
- บำรุงหัวใจและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ – โอเมก้า-3 ช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือด
- เสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย – โปรตีนจากปลากะพงเป็นโปรตีนคุณภาพสูงที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย
- ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน – ปลากะพงอุดมไปด้วย ฟอสฟอรัสและแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อกระดูก

พริกไทย – กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและเสริมระบบย่อยอาหาร
พริกไทยเป็นเครื่องเทศที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้ซุป และยังมีสรรพคุณทางยาอีกมากมาย
ประโยชน์ของพริกไทยต่อสุขภาพ:
- ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน – สารไพเพอรีน (Piperine) ในพริกไทยช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและลดไขมันสะสมในร่างกาย
- ช่วยบรรเทาอาการหวัดและขับเสมหะ – ความเผ็ดร้อนของพริกไทยช่วยให้ร่างกายขับเสมหะได้ดีขึ้น
- ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร – พริกไทยช่วยให้กระเพาะอาหารผลิตน้ำย่อยมากขึ้น ทำให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น
วิธีการทำ พร้อมสูตรอาหาร
วัตถุดิบ:
- เนื้อปลากะพงหั่นชิ้น
- ฮอทต้า ขิง 100%
- รากผักชี
- พริกไทย
- เกลือ
- ตั้งน้ำซุปในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด
- ใส่พริกไทยขาว
- ปรุงรสด้วย เกลือ และ คนให้เข้ากัน
- ใส่เนื้อปลากะพงลงไป ต้มจนสุก (ประมาณ 3-5 นาที)
- ตักใส่ชาม เสิร์ฟร้อน ๆ
เคล็บลับความอร่อย
เทคนิคทำให้ปลากะพงเนื้อเด้ง นุ่ม ไม่คาว
- ล้างเนื้อปลาด้วยน้ำเกลือ – ลดเมือกและกลิ่นคาว
- ลวกปลาด้วยน้ำร้อนก่อนใส่ลงในซุป – ทำให้เนื้อปลาตึงตัว ไม่ยุ่ยง่าย
- ใส่ปลาตอนน้ำซุปเดือด – เพื่อให้เนื้อปลาเซ็ตตัวเร็วและคงรสหวาน
- เลือกใช้ ฮอทต้า ขิง 100% เพราะ ง่าย สะดวก ไม่ต้องใช้ขิงสด แต่ได้ประโยชน์เต็มๆจากขิง 100% เพราะ ฮอทต้า คัดสรรหัวขิง ที่มีอายุ 11-12 เดือน เพราะเป็นช่วงอายุที่ขิงมีแร่ธาตุ และวิตามินสูงสุด จึงสามารถนำดื่ม และทำเมนูอาหารได้แบบไม่เสียรสชาติ
จากที่กล่าวไปข้างต้นของบทความ ว่าเมนูซุปขิงปลากะพง เหมาะกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง นั้น ไม่ใช่การติต่างไปเอง เพราะสรรพคุณที่มากมายของขิง นั่นเอง ที่ทำให้เมนูธรรมดาแสนพิเศษขึ้นได้เพราะขิง เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ หรือภูมิคุ้มกันตกบ่อย การกินขิงเป็นประจำแบบไม่ต้องฝืนใจ การซดน้ำซุปร้อน ๆ ที่มีกลิ่นขิงหอม ๆ จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่รู้หรือไม่ว่า ประโยชน์ของขิง ไม่เพียงแต่มีเท่าที่กล่าวไปข้างต้นเท่านั้น หากได้ศึกษาลงให้ลึกเข้าไปอีก เกี่ยวกับประโยชน์ของขิง จะยิ่งทำให้ประหลาดใจขึ้นอีกมาก เพราะแค่ขิงเหง้าไม่ใหญ่ ทำไมถึงมีคุณประโยชน์ที่มากมายขนาดนี้ ก่อนจะปิดจบบทความนี้ไป มาทำความรู้จักกับขิง ที่ให้คุณประโยชน์ด้านอื่นๆเพิ่มเติมกันสักนิด

ประโยชน์ของขิง (Ginger) สมุนไพรสารพัดประโยชน์
ขิง (Zingiber officinale) เป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้มานานหลายพันปีทั้งในตำรับยาแผนโบราณและการปรุงอาหารทั่วโลก ขิงมีสารออกฤทธิ์สำคัญอย่าง จินเจอรอล (Gingerol) และ โชกาออล (Shogaol) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต้านอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสุขภาพในหลายด้าน
1. ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและต้านการติดเชื้อ
- ขิงมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
- มีฤทธิ์ช่วยต้านเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ลดความเสี่ยงของโรคติดเชื้อต่าง ๆ
- การดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ ช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก และช่วยขับเสมหะ
- ขิงมีประสิทธิภาพสูงในการลดอาการคลื่นไส้จากการเมารถ เมาเรือ หรือหลังจากการผ่าตัด
- มีงานวิจัยพบว่าขิงสามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ขิงมีฤทธิ์คล้ายยาแก้อักเสบตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดอาการปวดและบวมในผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis)
- การบริโภคขิงเป็นประจำช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย
- ขิงช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสมดุล
- มีงานวิจัยพบว่าผู้ป่วยเบาหวานที่บริโภคขิงเป็นประจำมีระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
- ขิงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์
- มีฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิตและป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
- ขิงช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
- ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยกระตุ้นการขับลม
- ขิงช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกาย ทำให้เผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
- มีฤทธิ์ช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้สามารถควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น
- ขิงมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์สมอง
- ช่วยเพิ่มความจำและลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ
- ขิงมีฤทธิ์ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนและลดอาการอักเสบในมดลูก
- มีการวิจัยพบว่าขิงมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับยาแก้ปวดบางชนิดในการลดอาการปวด
- สารต้านอนุมูลอิสระในขิงช่วยป้องกันริ้วรอยและทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้เส้นผมแข็งแรงและลดอาการผมร่วง
ยังมีประโยชน์ของขิงอีกมากมาย ที่ยังกล่าวไม่หมดในบทความนี้ แต่อย่างน้อยก็ได้ทราบกันแล้วว่า ขิงเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์หลากหลาย ทั้งช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ต้านอักเสบ บำรุงหัวใจ สมอง และช่วยลดน้ำหนัก สามารถนำมารับประทานได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดจากขิง และหากอยากรู้ว่าขิงมีประโยชน์ขนาดที่กล่าวไปจริงหรือไม่? สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ งานวิจัยขิงสุดยอดสมุนไพร (1) น้ำขิง สรรพคุณ งานวิจัยทางการแพทย์(2)
แล้วคุณจะเลือกดื่มน้ำขิงเป็นประจำ เพราะคุณอยากมีสุขภาพดีขึ้นทุกวัน!
บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจ