แอปเปิ้ลบีทรูทปั่นขิง

HomeHOTTA MENUแอปเปิ้ลบีทรูทปั่นขิง

ส่วนผสม / แก้ว
  1. ฮอทต้า ขิง100%   1-2 ซอง (เพิ่ม-ลด ตามชอบ)
  2. บีทรูทสดสีแดง (ปลอกเปลือก-หั่นชิ้น)   1 หัว
  3. แอปเปิ้ลเขียว (ปลอกเปลือก-หั่นชิ้น)   1 ลูก
  4. แอปเปิ้ลแดง (ปลอกเปลือก-หั่นชิ้น)   1 ลูก
  5. น้ำแข็งบด   1 ถ้วย

วิธีทำ
  1. ใส่บีทรูทและแอปเปิ้ลลงในเครื่องคั้นน้ำผลไม้แบบแยกกาก เสร็จแล้วเทใส่เครื่องปั่น แล้วเติม ฮอทต้า ขิง100% และน้ำแข็งบด ปั่นเสร็จเทใส่แก้ว สามารถเติมมะนาว 1-2 ลูก เพิ่มความสดชื่น เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขนี้
 
รู้ไหมว่า...

บีทรูท เป็นหัวหรือรากของพืชที่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มแนวเฮลตี้ที่ดื่มง่าย รสชาติอร่อย และอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย โดยบีทรูท 100 กรัม ให้พลังงาน 43 กิโลแคลอรี่ น้ำตาล 6.76 ไขมัน 0.17 โปรตีน 1.61 เบต้าแคโรทีน 20 ไมโครกรัม แคลเซียม 16 มิลลิกรัม ใยอาหาร 2.8 กรัม คาร์โบไฮเดรต 9.56 กรัม น้ำ 87.58 กรัม เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 23 มิลลิกรัม วิตามินเอ 2 ไมโครกรัม ฟอสฟอรัส 40 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 325 มิลลิกรัม วิตามินบี 1 0.031 มิลลิกรัม และโซเดียม 78 มิลลิกรัม การบริโภคบีทรูทเป็นประจำมีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย ช่วยลดไขมันในตับ ทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ ลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ กระตุ้นสมองให้รู้สึกสดชื่น ดูแลผิวพรรณ และส่งเสริมการทำงานของร่างกายให้มีประสิทธิภาพ

ขิง อุดมไปด้วยสาร จินเจอร์รอล, วิตามิน, ใยอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะขิงแก่สดอายุ 11 – 12 เดือน จะมีปริมาณสารจินเจอร์รอลมากที่สุด ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟีนอลที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ หรือเปรียบดั่งสมุนไพรรักษามะเร็ง นอกจากนี้ ประโยชน์ของขิง ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ในร่างกายได้ อาทิ
  • แก้หวัด เพราะ “จินเจอร์รอล” สารสำคัญในขิง มีส่วนช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต และกระตุ้นการทำงานของระบบป้องกันร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ในขณะเดียวกัน ปริมาณเหงื่อที่มากขึ้น ก็ช่วยขับพิษหรือไวรัสออกจากร่างกาย จึงมีส่วนช่วย ป้องกันไข้หวัดได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการอื่น ๆ ที่อาจมาพร้อมกับไข้หวัด เช่น ขิงแก้เจ็บคอ จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมของใครหลาย ๆ คน ที่เวลารู้สึกเจ็บคอมักชอบจิบน้ำขิง เนื่องจากขิงสามารถช่วยต้านการอักเสบ รวมทั้งสามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ตัวการของอาการเจ็บคอได้อีกด้วย
  • แก้ไมเกรน โดยมีการศึกษาวิจัยล่าสุดในต่างประเทศ ทำการศึกษาวิจัยในเรื่องการใช้ขิงรักษาอาการปวดไมเกรน โดยทำการศึกษาวิจัยในผู้ป่วยไมเกรน 100 ราย ในแผนกประสาทวิทยา ของโรงพยาบาลในประเทศอิหร่าน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่รับประทานขิง อาการปวดไมเกรนลดลงดีเทียบเท่ากับกลุ่มที่รับประทานยาแก้ปวดแผนปัจจุบัน คือ สามารถลดอาการปวดไมเกรนได้ถึง 60% ภายในเวลา 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยา และพบว่าแคปซูลขิง มีข้อดีที่เหนือกว่ายาแผนปัจจุบัน คือ ไม่พบอาการข้างเคียงจากการรับประทานยา ซึ่งการที่ขิงสามารถบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้นั้น น่าจะมาจากการที่ขิงมีฤทธิ์ในการลดกระบวนการอักเสบ ลดอาการปวดในร่างกาย ลดการสร้างสารพรอสตาแกลนดิน (prostaglandins) ที่ทำให้ปวดและอักเสบนั่นเอง อีกทั้งความเผ็ดร้อนของขิงมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้โคเลสเตอรอล หรือไขมันตัวร้ายแข็งตัว จึงมีส่วนช่วยป้องกันผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับระบบโลหิตภายในร่างกาย ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด

เคล็ดลับการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ คือการรู้จักคุณค่าของส่วนประกอบในแต่ละเมนู ซึ่งการนำขิงมาเป็นวัตถุดิบหลัก มีส่วนช่วยให้ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลักการ กินอย่างฉลาด เพิ่มคุณประโยชน์ให้ร่างกายมากกว่าเดิม เพิ่มเติมคือการมีสุขภาพดี อ่านประโยชน์ขิงเพิ่มเติมได้ที่ ประโยชน์ของขิง-ดีจริงจนต้องบอกต่อ
Back
23/03/2021
2,422
Other Sharing