ข้อควรรู้ ก่อนฉีดวัคซีนต้านโควิด19

HomeTRENDข้อควรรู้ ก่อนฉีดวัคซีนต้านโควิด19


รู้ก่อนรับวัคซีน 


หลังมีการระบาดโควิด-19 ไปทั่วโลก และกินระยะเวลานานกว่า 1 ปี มีผู้ผลิตวัคซีนจำนวน 9 ราย จากทั่วโลกได้คิดค้นและผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ออกมา

โดยการฉีดวัคซีนนั้นมีผลที่ได้รับถึง 3 แบบด้วยกันคือ 1.ลดการติดเชื้อ 2.ลดการแพร่เชื้อเมื่อป่วย 3.ลดความรุนแรงเมื่อป่วย  ซึ่งวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตขึ้นมาใช้ในกรณีฉุกเฉิน (EUA) และกำลังจะเริ่มฉีดทั่วโลกนั้น มี 4 ลักษณะดังนี้
  1. วัคซีน เอ็มอาร์เอเอ็นวัคซีน (mRNA) ที่ได้จากสารพันธุกรรมชนิดอาร์เอ็นเอจากเชื้อไวรัส เมื่อคนได้รับวัคซีนเข้าสู่ร่างกาย จะกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกันชนิดแอนติบอดีที่ช่วยต่อสู้กับไวรัสได้
  2. วัคซีนชนิด Viral Vector เป็นการใช้ไวรัสที่ทำให้อ่อนลงแล้วไม่ทำให้เกิดโรค มาตัดต่อใส่สารพันธุกรรมของ corona virus เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ยกตัวอย่างวัคซีนที่ใช้วิธีนี้ก็คือ วัคซีนอีโบล่า
  3. วัคซีนชนิดเชื้อตาย (inactivated vaccine) คือใช้เชื้อโรคทั้งตัวที่ตายแล้ว หรือเฉพาะส่วนประกอบบางส่วนของเชื้อโรค
  4. วัคซีนโปรตีนซับยูนิต (subunit protein) เป็นการใช้โปรตีนบางส่วนของเชื้อ เพื่อไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกัน 

และในปี 2564 นี้ จะมีการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้กับคนไทยกว่า 50% ซึ่งคนไทยทุกคนยังต้องป้องกันตัวเอง ลดการแพร่เชื้อด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ และรักษาระยะห่าง แล้วอดใจรอวันที่คนไทยจะได้รับวัคซีนครบทุกคน

อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ก็น่าจะมีผลข้างเคียงอื่นใดตามมา และเราควรเตรียมรับมือป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อน เพราะเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนที่ไม่สามารถคาดเดาได้ อีกทั้งแต่ละคนก็มีระบบร่างกายไม่เหมือนกัน ถึงแม้คนนั้นจะไม่มีโรคประจำตัวก็ตาม ความเสี่ยงและประสิทธิภาพที่ควรจะได้รับจึงแตกต่างกัน และต้องเข้าใจว่าวัคซีนทุกชนิด ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม มันไม่ได้ถูกกำหนดที่ชนิดของวัคซีน หรือประเภทของวัคซีนอย่างเดียว แต่มันถูกกำหนดด้วยตัวคนที่ได้รับวัคซีน ที่มีการตอบสนองในระดับที่ต่างกันกับวัคซีนทุกชนิด 

HOTTA Sharing การเตรียมร่างกายให้พร้อม ก่อน-หลัง รับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เป็นสิ่งสำคัญ

ก่อนฉีดวัคซีน
  • ป่วย หรือมีไข้สูงควรเลี่ยงการฉีดวัคซีน
  • ผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษาบางอย่าง หรือการได้รับยากดภูมิคุ้มกัน เช่น prednisolone ควรเลื่อนการรับวัคซีน  หรือการได้รับสารพวก immunoglobulin ในระยะใกล้กับการได้รับวัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ก็ต้องเลื่อนการฉีดวัคซีนไปอย่างน้อย 3 - 5 เดือน ถ้าได้ขนาดสูงอาจต้องเลื่อนไป 5 - 11 เดือน
  • ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนต้องมีการจดบันทึก ก่อนการรับวัคซีนทุกครั้ง
  • แพ้อาหาร แพ้ยา หรือมีโรคประจำตัว ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน
  • ควรเตรียมร่างกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ 6 - 8 ชั่วโมง
หลังฉีดวัคซีน
  • หลังฉีดวัคซีน ควรนั่งพักอย่างน้อย 30 นาที
  • หลังจากรับวัคซีนไปแล้วอาจมีไข้ ให้ผู้รับวัคซีนควรสังเกตอาการต่อที่บ้าน

ที่สำคัญ ดูแลสุขภาพร่างกายสม่ำเสมอและดื่มน้ำขิงบ่อย ๆ ในทุกวัน เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงพร้อมต้านโรคภัยต่าง ๆ นั่นเอง
Back
18/03/2021
3,026
Other Sharing